เมื่อพูดถึงเรื่องอาหารการกินสำหรับน้องหมาน้องแมวหลายคนคงมีความสงสัยว่า เราจะเลือกอาหารประเภทไหนให้เขาดี? อาหารชนิดไหนบ้างที่ไม่ควรให้? แล้วอาหารชนิดใดบ้างที่จะส่งผลให้เกิดโรคหรือมีผลต่อโรคประจำตัวของพวกเขา? สำหรับช่วงนี้เป็นซีรี่ส์ของเรื่องของ “อาหาร” โดยข้อมูลน่าสนใจจาก โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ครับ
@อาหารอะไรบ้างที่เจ้าของไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงกิน
อาหารที่เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง อาจจะเป็นของที่เจ้าของชอบกิน และคิดว่าอร่อยสำหรับท่านและเจ้าตัวน้อย ซึ่งหลายคนมองข้ามอันตรายไป มักคิดว่าคนกินได้ สัตว์เลี้ยงก็กินได้แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยครับ
เรามาดูกันนะครับว่ามีอาหารประเภทไหนบ้างที่ไม่ควรให้สุนัขและแมวกิน
1.ช็อกโกแลต กาแฟ และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกาเฟอีน หลายท่านอาจทราบดีว่า ในอาหารเหล่านี้มีสารประกอบที่ชื่อว่า methylxanthine ซึ่งอยู่ในเมล็ดโกโก้มีผลต่อสุนัขและแมว ก็คือ ทำให้อาเจียน ท้องเสีย หอบ ปัสสาวะบ่อยใจสั่น กล้ามเนื้อสั่นเกร็ง จนอาจถึงขั้นชัก และหัวใจวาย และเสียชีวิตได้
2.องุ่นหรือลูกเกด รวมถึงผลิตภัณฑ์จากองุ่นเนื่องจากเมื่อสัตว์ได้รับไปแล้ว มีโอกาสทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดอาการไตวายได้
3.ถั่วแมคคาเดเมีย เนื่องจากเมื่อสัตว์ได้รับไปแล้วจะทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึม อาเจียน กล้ามเนื้อสั่นเกร็ง เป็นอัมพาตได้ ซึ่งอาการมักเกิดหลังจากการกินประมาณ 12 ชั่วโมง
4.หัวหอมและกระเทียม เนื่องจากทำให้เม็ดเลือดแดงแตกเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบเลือดตามมาได้
5.นมวัว เนื่องจากในนมมีน้ำตาลชื่อแลคโตส ซึ่งสัตว์ไม่สามารถย่อยน้ำตาลชนิดนี้ได้ ส่งผลให้ท้องเสีย และท้องอืดได้
6.เกลือ รวมถึงอาหารและขนมที่มีรสเค็ม เรียนว่าเมื่อร่างกายได้รับเกลือแล้ว จะทำให้สัตว์กระหายน้ำ และปัสสาวะมากกว่าปกติ ซึ่งหากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป ก็จะทำให้เกิดความเป็นพิษจากโซเดียมซึ่งเป็นส่วนประกอบของเกลือ กล่าวคือมีอาการอาเจียน ท้องเสีย ซึม กล้ามเนื้อสั่นเกร็ง อาจถึงขั้นชักและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ จะทำให้ไตทำงานหนัก เกิดการเสียหายของหน่วยการกรองของไต จนทำให้เกิดภาวะไตวายได้ ดังนั้นผู้เลี้ยงควรระมัดระวังในการให้ขนมที่มีรสชาติเค็มมากๆ เช่น มันฝรั่งอบกรอบ ขนมหรือข้าวโพดคั่วรสเค็มแก่สัตว์เลี้ยงด้วย
7.น้ำตาล xylitol ซึ่งเป็นสารปรุงรสหวานในหลายผลิตภัณฑ์ เช่น หมากฝรั่ง ลูกอม ขนมหวาน และยาสีฟันซึ่งสารนี้จะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งมีหน้าที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง และนำไปสู่ภาวะตับวายอีกด้วย อาการที่สัตว์แสดงจะพบว่ามีอาการอ่อนแรง และเสียความสามารถในการทรงตัว
8.แป้งยีสต์ แป้งขนิดนี้เป็นแป้งที่เกิดการหมัก ยีสต์จะมีการสร้างแก๊สออกมา สะสมในทางเดินอาหารเยอะมาก ส่งผลให้ท้องอืดอย่างรุนแรง และอาจทำให้เกิดกระเพาะบิดตามมาได้ นอกจากนี้ ยีสต์ยังสร้างแอลกอฮอล์ออกมาด้วย ส่งผลให้เกิดอาการเมาและเสียการทรงตัวได้
9.มะพร้าวและน้ำมันมะพร้าว ถ้าให้สัตว์กินในปริมาณเล็กน้อยอาจไม่ส่งผลต่อสัตว์มากนัก ในส่วนของเนื้อมะพร้าวและน้ำมันมะพร้าวจะประกอบด้วยไขมันปริมาณมาก ซึ่งอาจทำให้สัตว์ท้องอืด หรืออาจจะทำให้ท้องเสียได้ นอกจากนี้ส่วนน้ำของมะพร้าวจะมีโพแทสเซียมสูงมาก และไม่ควรให้แก่สัตว์เลี้ยง
10.ผลไม้ตระกูลส้มและมะนาว เนื่องจากมีกรดซิตริก และน้ำมันหอมระเหย ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคือง และถ้าได้รับในปริมาณที่มากพอจะทำให้เกิดการกดระบบประสาทส่วนกลางได้ อย่างไรก็ตาม การกินผลไม้ปริมาณเล็กน้อย อาจจะไม่ได้ทำให้มีอาการไม่พึงประสงค์อย่างชัดเจน อย่างมากก็แค่ทำให้ทางเดินอาหารทำงานลดลง
นอกจากนี้ ความเชื่อที่ว่า “สุนัขกินกระดูก แมวกินก้างปลา” นั้นก็เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง จึงควรระมัดระวังในการให้สัตว์รวมถึงการที่สัตว์อาจจะแอบไปเก็บกินจากถังขยะด้วย ดังนั้นจึงมีความสำคัญมากที่จะต้องเก็บให้มิดชิดก่อนการทิ้งกระดูกไก่และก้างปลาครับ
เรื่องราวเกี่ยวกับอาหารของสัตว์เลี้ยงยังไม่หมดแค่นี้ สัปดาห์หน้าเรามาคุยกันต่อถึง “อาหารที่มีผลต่อโรคประจำตัวของสัตว์” กันครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
"อาหารหวาน" - Google News
September 06, 2020 at 02:00AM
https://ift.tt/2F5Voqv
คอลัมน์ผู้หญิง - อาหารกับสัตว์เลี้ยง (ตอนที่ 1) - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"อาหารหวาน" - Google News
https://ift.tt/36V3prP
No comments:
Post a Comment